ไร่แห่งความหวัง เป็นภาพต่อเนื่องจากภาพ nirvana สองคนล่องเรือไปยังดินแดนแห่งใหม่ ยึดอาชีพเป็นเกษตรกร ทำไร่ปลูกพืชผักเลี้ยงสัตว์อยู่แบบพอเพียง บรรยากาศแสนสงบสุข ได้ยินเสียงนก เสียงลมทั้งวัน ความร่ำรวยวัดจากความสุขที่เกิดขึ้น ปากท้องพึ่งพิงผืนแผ่นดินรอบตัว จะได้มากได้น้อยขึ้นอยู่กับความขยันของตัวเรา
หรือ อีกนัยหนึ่ง มันคือการระบายความอึดอัดใจกับสภาพอันธพาลเสื้อแดงครองเมือง จนอยากจะหนีไปอยู่ไกลๆ ไปหาที่สงบสุขอยู่ เพราะในชีวิตประจำวัน ฉันต้องเจอคนพวกนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างน้อยก็สองอย่าง คือนั่งมอเตอร์ไซด์วิน และ นั่งแท็กซี่ วันไหนไม่เจอก็โชคดีไป แต่ถ้าวันไหนดวงตกละก้อ เสียอารมณ์ไปทั้งวัน ...มันคงจะดีไม่น้อย ถ้าได้ไปใช้ชีวิตอยู่แบบในภาพนี้จริงๆ
-----------------------------------------------
ขั้นตอนการเขียนภาพอะคริลิกสไตล์ Naive Art
สีที่ใช้ ไปซื้อที่ม.ศิลปากรค่ะ ถูกที่สุดแล้ว ยี่ห้อกลางๆ ไม่แพงมาก เอาแบบพอมีกำลัง ถ้าจะให้ดี ซื้อยี่ห้อที่กำลังมีโปรฯลดราคา มือสมัครเล่นอย่าเพิ่งไปใช้ของแพงนะคะ จนตายเลย เราเขียนเพื่อความหรรษา มิได้เป็นมืออาชีพที่ขายภาพเขียนราคาหมื่นแสน กว่าจะเก่ง หมดค่าสี ค่าเฟรมไปหลายๆพันเลยล่ะ
ภาพร่าง: เขียนด้วยดินสอลงบนกระดาษคร่าวๆ พอให้ได้ไอเดียก่อน แต่ก่อนหน้าที่จะเขียนได้ก็ต้องไปศึกษาลักษณะขององค์ประกอบก่อน เช่น รูปร่างของหมวก ป้าย ผ้าโพกศรีษะ ลูกหมู ทิวทัศน์ฯลฯ ดูจากอินเตอร์เน็ตได้ทุกอย่าง ซึ่งอาจจะต้องฝึกเขียนหลายๆ ครั้งจนกว่าจะลงตัว ซึ่งตัวเองก็ต้องเขียนถึง4-5รูป กว่าจะลงตัวมาเป็นรูปนี้
การลงสี : ภาพอะคริลิกสามารถเขียนทับได้ ดังนั้นจึงควรเริ่มจากด้านหลังมาหน้า แต่ก่อนจะถึงขั้นตอนนั้น ให้ลงลายเส้นทับเส้นร่างดินสอจะใช้สีดำหรือสีน้ำตาลก็ได้ กำหนดแสงเงาไว้ด้วย จะได้ง่ายเวลาลงสีจริงๆ หากเส้นร่างถูกสีกลบหายไปหมด ก็เช็คดูจากภาพสเก็ตดินสอที่เขียนไว้ก่อนบนกระดาษ จากนั้นเริ่มลงสีท้องฟ้า เนินเขา ทุ่งหญ้า ต้นไม้ ตามลำดับ ส่วนรูปคนเอาไว้หลังสุดเพราะต้องให้รายละเอียดและอารมณ์บนใบหน้า ภาพหนุ่มสาวชาวไร่นี้ มีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ต้นไม้บนเนินเขาหายไป แต่บ้านกับลูกหมูมาเพิ่ม คอนเซ็ปของการเขียนภาพแนวนี้ คือ ความสดใสค่ะ ไม่จำเป็นต้องเหมือนจริง ใช้จินตนาการที่เรียบง่าย สวยงาม ขอให้สนุกกับการเขียนภาพนะคะ
Comments